อดีตสมาชิกสี่เต่าทอง The Beatle ถูกยิงเสียชีวิตในปี 1980

จากเสียงบันทึกล่าสุดของ Mark Chapman วัย 63 ปี ชายผู้ปลิดชีพ John Lennon เขาได้เผยว่าตัวเองรู้สึก “ละอายใจตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ” ในทุกๆปี นับตั้งแต่วันที่ลงมือยิงศิลปินระดับไอคอนจนเสียชีวิตในปี 1980

โดย Chapman ถูกคณะกรรมการพิจารณาทัณฑ์บนของนิวยอร์คปฏิเสธทัณฑ์บนจากเรือนจำครั้งที่สิบ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หมายความว่า Chapman จะยังไม่ได้รับอิสรภาพออกจากเรือนจำโดยทางคณะกรรมการพิจารณาทัณฑ์บน แม้เขาจะประพฤติตัวดีในเรือนจำก็ตาม ซึ่งคำอุทธรณ์เมื่อก่อนหน้านี้ของเขาได้ถูกปฏิเสธไปในปี 2016
 

(ภาพถ่ายขณะที่ John Lennon เซ็นปกอัลบั้ม 'Double Fantasy' ให้กับ
Mark Chapman หลายชั่วโมงก่อนถูกลอบยิง)

Mark Chapman ได้ยิง John Lennon เสียชีวิตเมื่อเดือนธันวาคม ปี 1980 นอกอาคารอพาร์ตเมนต์ย่านแมนฮัตตัน ที่วง The Beatles อาศัยอยู่ ซึ่งเขาถูกศาลตัดสินจำคุก 20 ปี ถึงตลอดชีวิตในข้อหาฆาตกรรม เขาถูกระบุว่ามีสภาพจิตใจไม่ปกติขณะก่อเหตุ และได้ทำการรับสารภาพตลอดทุกข้อหา ซึ่งในขณะนี้ เขาถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำ Wende ในเมืองอัลเดน ของรัฐนิวยอร์ก

สื่อ The Guardian เผยคำพูดของ Chapman ว่า “เมื่อ 30 ปีก่อน ผมยังพูดไม่ได้ว่ารู้สึกละอายใจตัวเอง แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าความน่าละอายมันเป็นยังไง และมันคือตอนที่คุณต้องปิดบังใบหน้าของคุณ ทั้งๆที่คุณไม่ได้ต้องการเลย”
 

Chapman ยังบอกกับสมาชิกคณะกรรมการพิจารณาทัณฑ์บนว่าเขายังคงคิดถึงความ “น่าทึ่ง” ในตัว Lennon ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่

“ผมยังจำได้ดีถึงตอนที่มีความคิดว่า ‘เฮ้ ตอนนี้นายได้อัลบั้มชุดใหม่ของเขาแล้วนะ ดูสิ เขาเซ็นลายเซ็นให้แล้วด้วย แค่กลับบ้านไปซะ’” เขากล่าว

Chapman ยิงที่ Lennon ห้าครั้ง กระสุนโดน Lennon สี่นัดที่กลางหลัง ต่อมา Chapman ยังคงอยู่ในที่เกิดเหตุ และอ่านนิยายเรื่อง 'The Catcher in the Rye' ของ J. D. Salinger จนกระทั่งตำรวจมาถึงและจับกุมเขา เขากล่าวซ้ำๆว่านวนิยายดังกล่าวคือแถลงการณ์ของเขา
 

ที่มา NME
เรียบเรียง RockOnRadio Team