คอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายในฐานะวงดนตรีของ The Beatles บนดาดฟ้า Savile Row ในกรุงลอนดอน จะถูกรวมอยู่ในสารคดีอย่างครบถ้วน

‘The Beatles: Get Back’ สารคดีเรื่องใหม่ของตำนานวงร็อกสี่เต่าทอง The Beatles โดยฝีมือผู้กำกับ Peter Jackson จากมหากาพย์ภาพยนตร์แฟนตาซีอย่าง ‘Lord of Rings’ ได้รับการคอนเฟิร์มเกี่ยวกับการฉายในโรงภาพยนตร์แล้ว ภายใต้การจัดจำหน่ายโดย Walt Disney Company

โดยสารคดี ‘The Beatles: Get Back’ จะมุ่งเน้นไปที่การทำสตูดิโออัลบั้มสุดท้ายของวงอย่าง ‘Let It Be’ เช่นเดียวกับคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของพวกเขาในฐานะวงดนตรีบนดาดฟ้า Savile Row ของกรุงลอนดอน ที่จะถูกรวมอยู่ด้วยอย่างครบถ้วนตลอด 42 นาที ซึ่งเป็นการตัดต่อจากฟุตเทจความยาว 55 ชั่วโมงที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน จากการถ่ายทำของ Michael Lindsay-Hogg ในปี 1969 และ 140 ชั่วโมงของเสียงส่วนใหญ่ที่ไม่เคยมีใครได้ยินจากกระบวนการบันทึกอัลบั้มชุดดังกล่าว
 

หนึ่งในอดีตสมาชิกอย่าง Paul McCartney ได้ออกมาแสดงการสนับสนุนถึงโปรเจคนี้ว่า “ผมมีความสุขมากๆครับที่ Peter [Jackson] ได้เจาะเข้าไปในหอจดหมายเหตุของเรา เพื่อสร้างภาพยนตร์ที่แสดงความจริงเกี่ยวกับการบันทึกเสียงด้วยกันของ The Beatles มิตรภาพและความรักระหว่างเราได้แวะมาหาแล้ว และทำให้ผมนึกถึงการที่เรามีเวลาที่สวยงามอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง”

‘The Beatles: Get Back’ จะประเมินภาพวิดีโอจาก ‘Let It Be’ ซึ่งเป็นภาพยนตร์ของ Lindsay-Hogg ที่เคยเปิดตัวครั้งแรกในปี 1970 หลังจากที่มีการประกาศว่าวงจะแยกทางกัน

ในขณะที่อดีตมือกลอง Ringo Starr กล่าวถึงสารคดีเรื่องนี้ว่า “Peter เป็นผู้กำกับที่ยอดเยี่ยม และมันก็เจ๋งมากๆที่ได้กลับไปดูฟุตเทจเหล่านี้ทั้งหมด หลายๆชั่วโมงที่เราเพียงแค่นั่งหัวเราะ และเล่นดนตรีด้วยกัน ซึ่งไม่เหมือนกับเวอร์ชั่นใดๆที่เคยออกมาเลย มันเต็มไปด้วยความสุข และผมก็คิดว่า Peter จะแสดงให้เห็นถึงสิ่งนั้น ผมคิดว่าเวอร์ชั่นนี้จะมีความสงบและความรักอย่างที่เราเป็นจริงๆครับ”
 

เช่นเดียวกับผู้กำกับ Jackson ที่กล่าวว่า “การทำงานในโปรเจคนี้เป็นการค้นพบที่สนุกสนาน ผมได้รับสิทธิพิเศษที่จะเข้าไปสอดแนมอย่างลับๆ ในขณะที่วงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลกำลังทำงาน เล่นดนตรี และสร้างผลงานชิ้นเอก”

สารคดี ‘The Beatles: Get Back’ มีกำหนดเข้าฉายในอเมริกาและแคนาดา วันที่ 4 กันยายนนี้
 

ที่มา NME
เรียบเรียงโดย RockOnRadio Team