ปี 2021 ยังคงเป็นอีกปีที่วงการเพลงทั่วโลกต้องหันมาอาศัยการปล่อยผลงานเพลงและจัดไลฟ์สตรีมคอนเสิร์ตเป็นหลัก เนื่องจากสถานการณ์แพร่ะบาดของโควิด 19 ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ ศิลปินและวงดนตรีมากมายจึงใช้เวลาว่างระหว่างที่พวกเขารอคอยการกลับไปออกทัวร์อีกครั้ง ด้วยการสร้างสรรค์บทเพลงที่เป็นเหมือนตัวแทนของช่วงเวลาเหล่านี้อย่างตรงไปตรงมา ในขณะเดียวกันก็สามารถปลอบประโลมจิตใจผู้ฟังด้วยแนวทางที่แตกต่างกันออกไปตามสไตล์ของตัวเอง และนี่คือ 20 อันดับเพลงร็อกที่เป็นที่สุดในปีนี้จาก Rock On Radio

20. Beebadoobee – Worth It

เพลงแรงข้ามปีจากศิลปินสาวชาวอังกฤษเชื้อสายฟิลิปปินส์ เจ้าของรางวัล NME Radar ปี 2020 เธอยังเป็น ศิลปินหญิงที่มาแรงในปีนี้ ตอกย้ำพรสวรรค์และเสน่ห์ของเพลงที่เจือไปด้วยกลิ่นอายของดนตรี Alternative ยุค 90s ถ่ายทอดเนื้อหาความเจ็บปวดจากอาการคลั่งรักของชีวิตวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี
 

19. Foster The People – Lamp's Wool

เป็นอีกเพลงที่แม้จะออกมาตั้งแต่กลางปีที่แล้วแต่ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลิ่นอาย Psychedelic Pop ตามแบบฉบับของพวกเขา Lamp’s Wool เป็นอีกเพลงที่เหมาะจะติดเพลย์ลิสต์ของคุณในวันที่ต้องขับรถไกลๆ ในช่วงหยุดยาวๆ แบบนี้
 

18. Oliver Tree – Life Goes On

ซิงเกิ้ลจากนักร้องนักแต่งเพลงจาก California ที่ถูกสตรีมไปแล้วกว่า 400 ล้านครั้ง และกลายเป็นเพลงไวรัลในแพลตฟอร์มขวัญใจวัยรุ่นอย่าง TikTok พูดถึงความสัมพันธ์ที่ Toxic เมื่อใครพยายามชี้นำว่าคุณต้องใช้ชีวิตแบบนั้นแบบนี้แล้วถ้าเรายอมให้มันเป็นแบบนั้นไปเรื่อยๆ ในที่สุดเราก็สูญเสียตัวตนไป
 

17. ALT-J – U&Me

อะไรจะดีไปกว่าการได้แฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนซี้ที่รู้ใจ เต้นรำและเมามายไปในเทศกาลดนตรีกันเล่า Alt-J ได้ถ่ายทอดความรู้สึกนี้ในช่วงเวลาที่ทุกๆ อย่างก็เริ่มคลี่คลายกลับเข้าสู่สถานการณ์ที่ดีขึ้น หลังจากช่วงเวลาที่ยากลำบากนานนับปีของสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 
 

16. Foals – Wake Me Up

ซิงเกิ้ลปลดปล่อยความเก็บกดจากวง Alternative Rock ที่เล่นคอนเสิร์ตที่ไร ก็เล่นเอาคนดูแดนซ์กันข้อเท้าเคล็ดกลับบ้านทุกครั้ง แต่เมื่อมาเจอสถานการณ์ล็อคดาวน์ในช่วงที่ผ่านมา มันก็เป็นความรู้สึกเหมือนการรอคอยอย่างเนิ่นนาน และในที่สุดพวกเขาก็ระบายมันออกมาเป็นเพลง Wake Me Up เพลงที่จะพาบรรยากาศเก่าๆ กลับมาให้ทุกคนเต้นกันลืมโลกอีกครั้ง
 

15. The Black Keys – Crawling Kingsnake

Crawling Kingsnake เป็นหนึ่งในเพลงบลูส์อมตะเก่าแก่ที่ดูเหมือนจะหาต้นฉบับไม่เจอแล้วว่าใครเป็นคนแต่ง มันถูกหยิบขึ้นมาเล่นหลายครั้งผ่านแต่ละยุคสมัย โดยเวอร์ชั่นที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดน่าจะเป็นฉบับของ Jonh  Lee Hooker ในยุค 40s ซึ่ง The Black Keys ก็นำมันมาเล่นอีกครั้งในแบบฉบับของตัวเองในอัลบั้มล่าสุดอย่าง Delta Kream เพื่อแสดงการคารวะแด่เพลงครูในสาย Blues
 

14. Vance Joy – Missing Piece

เพลงรักที่ดี จะสามารถพูดเรื่องเดิมๆ ที่คุณเคยรู้อยูแล้ว แต่ฟังมันอีกครั้งก็ยังรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจได้ครั้งแล้วครั้งเล่า Missing Piece คือความรู้ที่หายไป เมื่อคนที่รักต้องห่างไกลกัน Vance Joy ได้ถ่ายทอดมันออกมาผ่านกลิ่นอายอินดี้โฟล์คที่ทำให้รู้สึกถึงความจริงใจได้เป็นอย่างดี
 

13. Rag'n'Bone Man – All You Ever Wanted

บางสิ่งบางอย่างอาจต้องถูกทุบทำลายไปเพื่อให้สิ่งที่เรียกว่าความเจริญเข้ามาแทนที่ แต่นี่หรือคือสิ่งที่เราต้องการจริงๆ? All You Ever Wanted คือเพลงที่ Rag'n'Bone Man ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมือง Brighton และ London ที่ตัวเขาเติบโตมา และเมื่อกลับไปที่นั่นก็พบว่าบางสถานที่ในความทรงจำถูกทุบทำลาย กลายเป็นตึกรามห้างร้านอันทันสมัยไปแล้ว
 

12. John Mayer – Last Train Home

Last Train Home พูดถึงการเดิมพันเพื่อความรักครั้งสุดท้าย มันช่างเหมาะเจาะกับ John Mayer ในวัยหนุ่มใหญ่แบบนี้ บวกกับซาวด์ที่ชวนให้หวนนึกถึงบรรยากาศของ Yacht Rock ในยุค 80s อย่างวง Toto และแม้ว่าจะมีข่าวห่ามๆ ของพฤติกรรมแผลงๆ จากเจ้าตัวยังไง แต่เพลงรักของ John Mayer ก็ยังคงโรแมนติกอยู่เสมอ
 

11. Kings of Leon – The Bandit

เพลงเปิดตัวอัลบั้ม When You See Yourself อัลบั้มที่ 8 ของวงเพลงนี้เล่าเรื่องเกี่ยวกับโจรร้ายในยุคคาวบอย ที่ต้องหลบหนีการไล่ล่าจากประกาศจับ Caleb Followill ได้เผยว่าในช่วงที่ทำเพลงเขากำลังอินกับศิลปินสายคันทรี่,บลูส์ อย่าง Townes Van Zandt และ Willie Nelson เป็นอย่างมากจึงเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดเพลงนี้
 

10. Placebo – Beautiful James

นี่คือการกลับมาปล่อยเพลงในรอบ 5 ปี ของทางวง โดยกระบวนการทำงานครั้งนี้พวกเขาได้ทดลองวิธีการทำงานแบบย้อนศร โดยแทนที่จะเริ่มจากการเขียนเพลงพวกเขากลับเริ่มจากภาพ หรือเรื่องราวบางอย่างก่อน แล้วค่อยคิดเพลงตามคอนเส็ปท์ที่คิดขึ้นมา เพื่อให้ได้ผลงานที่แตกต่างออกไป
 

09. Twenty One Pilots – Saturday

นี่น่าจะเป็นซิงเกิ้ลที่ฟังดูสนุกสนานร่าเริงกว่าซิงเกิ้ลก่อนๆ จากอัลบั้ม Scaled and Icy ที่ฟังดูหม่น ซึ่งทางวงก็เปิดเผยว่า ถึงแม้ในช่วงที่กำลังทำอัลบั้มนี้จะเต็มไปด้วยความยากลำบากจากการล็อคดาวน์ในช่วงระบาดของโรคโควิด แต่พวกเขาก็บอกว่าเราไม่จำเป็นต้องทำเพลงเครียดๆ ตลอดเวลาก็ได้ถึงแม้ชีวิตจะเครียดก็ตาม
 

08. Foo Fighters – Waiting On A War

เพลงจากอัลบั้มลำดับที่ 10 ของวงอย่าง Medicine at Midnight โดย Dave Grohl นักร้องนำได้รับแรงบันดาลใจจากที่วันนึงลูกสาวของเขามองดูสถานการณ์ความเป็นไปในโลกปัจจุบันแล้วถามเขาว่า “มันจะเกิดสงครามมั้ย” ทำให้เขาฉุกคิดขึ้นมาได้ถึงความรูสึกเดียวกันนี้ที่เคยเกิดกับเขาเมื่อ 40 ปีก่อน ในยุคสงครามเย็นที่เป็นช่วงเวลาแห่งความกังวลและหวาดกลัว
 

07. Nothing But Thieves – Miracle, Baby

เพลงจากอีพีชุด Moral Panic II ที่เหมือนเป็นภาคต่อของอัลบั้มเต็ม Moral Panic ซึ่งในช่วงเวลาที่พวกเขากำลังทำเพลงนี้ โลกทั้งโลกก็เข้าสู่สภาวะปั่นป่วนสิ้นหวัง Miracl, Baby เป็นแทรคที่เปรียบเสมือนตัวแทนของยุคสมัยที่ผู้คนกำลังมืดแปดด้าน โหยหาเพียงปาฏิหารย์ให้เกิดความปกติสุขดั่งเช่นอดีต  
 

06. Imagine Dragons – Wrecked

เมื่อใครที่มีความหมายในชีวิตเรา จากไป มันก็เหมือนกับบางส่วนในชีวิตของเราก็แหลกสลายไปด้วย นี่คือเรื่อง ราวที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์ตรงของ Dan Raynold นักร้องนำ ที่ต้องสูญเสียน้องสะใภ้ไปด้วยโรคมะเร็ง ออกมาเป็นเพลงที่ฟังแล้วชวนหัวใจสลาย
 

05. Greta Van Fleet – Heat Above

ยังคงเป็นชื่อแรกๆ ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเสมอเมื่อพูดถึงความหวังของ Rock ที่เป็นสายเลือดใหม่ Greta Van  Fleet วง Hard Rock เลือดเข้มข้นจากมิชิแกน กลับมาพร้อมกับอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 อย่าง The Battle at  Garden's Gate โดย Heat Above ถูกวางเป็นแทร็คเปิดหัวอัลบั้ม ยังคงความจัดจ้านแต่เปี่ยมไปด้วยความสง่างาม ตามประสบการณ์ที่มีมากขึ้น
 

04. Royal Blood – Boilermaker

หากคุณรู้สึกว่าท่อนริฟฟ์เพลงนี้อาจมีความละม้ายคล้ายกับ Queens Of The Stone age ล่ะก็คุณเข้าใจถูกแล้ว เพราะเพลงนี้ของได้รับการโปรดิวซ์โดย Josh Homme แห่ง Queens of the stone age ซึ่งพวกเขาเริ่มซี้กันตั้งแต่ทัวร์คอนเสิร์ตด้วยกัน
 

03. CHVRCHES & Robert Smith - How Not To Drown

วง Trio สาย Synthpop จากสก็อตแลนด์ ได้มีโอกาสร่วมงานกับรุ่นใหญ่อย่าง Robert Smith นักร้องนำของวงดนตรีระดับตำนานอย่าง The Cure ในส่วนของเนื้อเพลง Lauren Mayberry นักร้องนำได้ถ่ายทอดถึงความรู้สึกในช่วงนึงของชีวิตที่อยากจะหายไป รวมถึงออกจากวง 
 

02. One Ok Rock - Renegades 


เรียกได้ว่าผูกปีทำเพลงประกอบกันมาตลอดสำหรับวง One Ok Rock และภาพยนตร์ใน Saga ของ Rurouni  Kenshin หรือซามูไรพเนจร โดย Renegades เป็น Ost. ประกอบของภาค The Final (ซึ่งที่จริงก็ยังไม่ใช่ภาคสุดท้ายหรอก) นอกจากนี้เป็นเพลงที่ได้ร่วมเขียนเนื้อเพลงกับ Ed Sheeran ด้วย
 

01. Bring Me The Horizon - DiE4u

ดูเหมือนจะเป็นวงที่ยังสร้างความประหลาดใน (ในแง่ดี) ให้กับแฟนเพลงได้อยู่เสมอ DiE4u เป็นเพลงที่ผสมผสานกลิ่นอายของ Pop Punk โดยไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของวงได้เป็นอย่างดี ซึ่งพวกเขานิยามมันขึ้นมาใหม่ว่าเป็นเพลงแบบ Future Emo ส่วนทางด้านเนื้อหาเป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ที่ Oli เคยมีปัญหารการใช้ยาเสพติดอย่างหนัก 
 

Best Indie of 2021

ทางฝั่งของศิลปินอินดี้หน้าใหม่ในปีนี้ก็มีหลายคนที่โดดเด่นและเป็นที่จับตามองจากทั้งสื่อดนตรีและผู้ฟังทั่วโลก ซึ่งในจำนวนนั้นก็มีอยู่สองศิลปินแสดงความชัดเจนในตัวตนผ่านผลงานเปิดตัวของพวกเขาจนไปสะดุดตาสาธารณะชนเป็นพิเศษ ถือเป็นเครื่องการันตีได้ว่าทั้งสองมีอนาคตที่ยาวไกลในวงการดนตรีรออยู่อย่างแน่นอน

Deb Never

Deb Never เป็นศิลปินอัลเทอร์เนทีฟป็อบชาวอเมริกันจากสโปแคน กรุงวอชิงตัน ผู้สนใจในดนตรีตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเธอเรียนรู้การทำเพลงด้วยตนเอง เธอก็ได้ปล่อยผลงานเพลงอิสระออกมามากมายภายใต้สเตจเนม Deb Never ที่มาจากมุกตลกบนโซเชียลมีเดีย และย้ายมาอาศัยอยู่ในลอสแอนเจลิส ด้วยฝีมือการทำเพลงและเสียงร้องที่น่าดึงดูด จึงทำให้เธอเป็นอีกศิลปินที่น่าจับตามองมากที่สุดคนนึงในปีนี้
 

girl in red

girl in red คือสเตจเนมของนักร้อง-นักแต่งเพลงสาวสัญชาตินอร์เวย์ Marie Ulven เป็นศิลปินอินดี้ป็อบที่กำลังถูกจับตามองผู้แจ้งเกิดจากผลงานเพลงสไตล์ Bedroom Pop ที่ตัวแทนกระบอกเสียงความรักของเพศทางเลือก และนอกจากนี้เพลงของเธอก็กระตุ้นเตือนให้โลกหันมาใส่ใจความเจ็บปวดของผู้ที่ต้องต่อสู้กับปัญหาสุขภาพจิตอีกด้วย